ธันวาคม 19, 2553

Green Technology : เทคโนโลยีไอทีเพื่อสิ่งแวดล้อม

Green Technologies หรือเทคโนโลยีไอทีเพื่อสิ่งแวดล้อมนั้น สืบเนื่องมาจากในปัจจุบันได้มีการตื่นตัวกันอย่างมากของคนทั้งโลก ในเรื่องของการรักษาสภาพแวดล้อมให้แก่โลก เพราะในปัจจุบันคนทั้งโลกต้องเผชิญกับสภาวะโลกร้อนและความแปรปรวนของลม ฟ้า อากาศ ซึ่งทั้งหมดนั้นก็เกิดมาจากผลการกระทำของมนุษย์เอง
ไม่ว่าจะเป็นในอดีตหรือปัจจุบันก็ตาม ดังนั้นลองมาดูกันว่าเทคโนโลยีด้านระบบไอทีนั้น มีเทคโนโลยีไหนหรือเทคโนโลยีของใครบ้างที่ให้ความสำคัญกับการรักษาสภาพสิ่งแวดล้อมของโลก และรายละเอียดของการรักษาสภาพแวดล้อมภายในเทคโนโลยีนั้น ๆ มีอะไรบ้าง

 รู้จักกับ Green Technology
                พอพูดถึงคำว่า เทคโนโลยี เราก็มักจะนึกถึงแอพพลิเคชันที่ช่วยสร้างชิ้นงาน ความรู้ คำว่า Green Technology หรือเทคโนโลยีสีเขียวเป็นวิวัฒนาการ วิธีการและอุปกรณ์เครื่องมือเพื่อใช้ในการจัดการแก้ไขปรับแต่งให้การทำงานของผลิตภัณฑ์เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา ผลกระทบจากการใช้งานของอุปกรณ์ เรียกว่าจะช่วยให้การทำงานของอุปกรณ์ต่างๆ สะอาดขึ้น ซึ่งเป้าหมายของการพัฒนานั้นได้เติบโตไปยังสิ่งต่างๆ ได้แก่
                *  การสนับสนุน จะมีการประชุมเพื่อสร้างสังคมในอนาคตโดยปราศจากการเสียหาย การทำลายทรัพยากรธรรมชาติ
                * การออกแบบจากแหล่งกำเนิดไปยังแหล่งกำเนิด การใช้งานของสิ่งต่างๆ ก็จะเป็นวัฏจักรของผลิตภัณฑ์ โดยการสร้างผลิตภัณฑ์ให้สามารถนำกลับมาใช้งานใหม่ได้
                * การลดข้อมูล เป็นการลดทิ้งและมลพิษ โดยการเปลี่ยนรูปแบบของการนำไปสร้างผลิตภัณฑ์และการบริโภค
                * พัฒนาสิ่งใหม่ๆ เป็นการพัฒนาเพื่อเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็นการนำซากสัตว์มาเป็นเชื้อเพลิงหรือทางเคมี แต่ก็อาจทำให้สุขภาพและสภาพแวดล้อมเสียหายได้
                * ความสามารถในการดำรงชีวิต สร้างศูนย์กลางทางด้านเศรษฐศาสตร์ให้เหมาะสมกับเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม ความเร็วในการพัฒนาและสร้างอาชีพใหม่เพื่อปกป้องโลก
                * พลังงาน ต้องรับรู้ข่าวสารทางด้านเทคโนโลยีสีเขียวรวมไปถึงการพัฒนาของเชื้อเพลิง ความหมายใหม่ของการกำเนิดพลังงาน และผลของพลังงาน
                * สภาพสิ่งแวดล้อม นำไปสู่การค้นหาสำหรับผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อค้นหาสิ่งที่บรรลุและวิธีที่ทำให้เกิดการกระทบกับสภาพแวดล้อมน้อยที่สุด
                เทคโนโลยีด้านระบบไอทีนั้นมีเทคโนโลยีไหน หรือเทคโนโลยีของใครที่ให้ความสำคัญกับการรักษาสภาพแวดล้อมของโลก และรายละเอียดของการรักษาสภาพแวดล้อมภายในเทคโนโลยีนั้นๆ มีอะไรบ้าง
 Green Computer
                Green Computer เครื่องคอมพิวเตอร์ที่รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรอื่นๆ ประกอบไปด้วยพลังงานหน่วยประมวลผลศูนย์กลางที่มีประสิทธิภาพ (ซีพียู) เครื่องเซิร์ฟเวอร์ และอุปกรณ์เสริมเพื่อลดการทำงานของทรัพยากรและการจัดการเรื่องการสิ้นเปลืองของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (e-Waste)
                นานมาแล้วที่เราได้มีการริเริ่มการใช้ Green Computing ในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยการติดป้ายเป็นรูปดาวพลังงานหรือ Energy Star ซึ่งนั่นเป็นการริเริ่ม Environmental Protection Agency (EPA) การป้องกันทางด้านสิ่งแวดล้อมในปี ค.ศ. 1992 เพื่อโฆษณาโดยหวังให้อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ต่างๆ ได้นำไปใช้งานด้วยการติดลาเบล Energy Star โดยเฉพาะเครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก เครื่องคอมพิวเตอร์ และหน้าจอ ซึ่งได้ถูกนำไปใช้งานทวีปยุโรปและเอเชีย ซึ่งเป็นแนวทางให้มีการใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์แบบนี้ เพื่อลดปัญหาที่เกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งผู้ที่ใช้งานคอมพิวเตอร์ก็อย่างเช่น ผู้ใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์และทางด้านธุรกิจตัวอย่างการลดพลังงาน ได้แก่
                * ให้ซีพียูและอุปกรณ์เสริมต่างๆ ที่ไม่ได้ใช้งาน ลดการใช้พลังงานลง
                * ลดพลังงานและการจ่ายไปให้แก่อุปกรณ์เสริมที่ไม่ได้ใช้งานนาน เช่น เครื่องพิมพ์เลเซอร์
                * ให้หันมาใช้จอภาพหรือมอนิเตอร์ในแบบ Liquid-Crystal-Display (LCD) แทนการใช้มอนิเตอร์ Cathode-Ray-Tube (CRT)
                * ถ้าเป็นไปได้ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กมากกว่าเครื่องคอมพิวเตอร์เดสก์ทอป เพราะเครื่องคอมพิวเตอร์เดสก์ทอปจะกินไฟและใช้พลังงานมากกว่าเครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก
                * ใช้ฟีเจอร์ Power-Management ให้ปิดการทำงานของฮาร์ดดิสก์ และหน้าจอมอนิเตอร์หากไม่ได้มีการใช้งานติดต่อกันนานๆ หลายนาที
                * ใช้กระดาษให้น้อยที่สุด และถ้าเป็นไปได้ก็ให้นำกระดาษกลับมาใช้งานหมุนเวียนอีก
                * ลดการใช้พลังงานกับเครื่องคอมพิวเตอร์เวิร์กสเตชัน เซิร์ฟเวอร์ เน็ตเวิร์กและข้อมูลส่วนกลาง
Green Data Center
                ศูนย์กลางข้อมูลสีเขียว คือ การใช้งานทางด้านการจัดเก็บข้อมูล การจัดการทางด้านข้อมูลและการแพร่กระจายของข้อมูลที่จัดเก็บไว้ในเครื่องจักร อุปกรณ์ไฟฟ้าและระบบคอมพิวเตอร์ที่ออกแบบมาเพื่อให้พลังงานสูงสุดแต่มีผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมน้อยสุด ทั้งการออกแบบการคำนวณจะเน้นศูนย์กลางข้อมูลสีเขียวรวมถึงเทคโนโลยี
ขั้นสูงและยุทธศาสตร์ต่างๆ ตัวอย่างเช่น
                * ใช้อุปกรณ์ที่แผ่กระจายแสงได้น้อยๆ อย่างการปูพรม
                * การออกแบบที่สนับสนุนสภาพแวดล้อม
                * ลดการสิ้นเปลืองโดยการนำกลับมาใช้งานอีก
 สภาพแวดล้อมที่ได้รับผลกระทบจากการใช้งานระบบไอที
                เชื่อหรือไม่ว่า เครื่องคอมพิวเตอร์ที่เราใช้งานอยู่นี้ก่อให้เกิดปัญหาต่อสภาพแวดล้อม ซึ่งเมื่อใช้งานอยู่ก็คงไม่รบกวนโลกมาก แต่พอเครื่องคอมพิวเตอร์ทำงานช้าลง เราก็อัพเกรด จวบจนวันหนึ่งที่ไม่สามารถอัพเกรดได้ก็ต้องเอาไปขายเป็นเศษเหล็ก ซึ่งก็ได้เงินมาไม่กี่บาท แต่ขยะคอมพิวเตอร์ ซึ่งอุปกรณ์บางอย่างก็ไม่สามารถย่อยสลายได้ แถมยังก่อมลพิษทางด้านอากาศ สิ่งแวดล้อมให้แก่โลกอีกด้วย เพราะในส่วนประกอบของเครื่องคอมพิวเตอร์เรานั้น ก็มีทั้งที่ประกอบไปด้วย พลาสติก อะลูมิเนียม สังกะสี และอื่นๆ
                ปัจจุบันมีผู้ใช้งานได้คิดประดิษฐ์นำเอาไม้ไผ่เข้ามาเป็นส่วนประกอบกับอุปกรณ์เครื่องคอมพิวเตอร์ เช่น คีย์บอร์ด หน้าจอมอนิเตอร์ เมาส์ หรือเครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก หรือเดี๋ยวนี้ถุงพลาสติกที่เราใส่ของก็ย่อยสลายยาก จนบางห้างสรรพสินค้ารณรงค์ให้ใช้ถุงผ้าแทนการใช้ถุงพลาสติกเพื่อลดการเปิดปัญหาโลกร้อนหลายคนกำลังรณรงค์ไม่ให้โลกร้อนเกิดขึ้นในอนาคต โดยให้ทุกคนบนโลกช่วยกันแก้ปัญหา และร่วมมือทั้งการปิดแอร์เมื่อไม่ใช้งาน
ดับเครื่องรถยนต์เมื่อต้องจอดรอเป็นเวลานานๆ และอีกหลายร้อยวิธีที่ช่วยให้โลกของเราอยู่ร่วมกับเราไปได้อีกนาน ต้องช่วยกันตั้งแต่วันนี้



ขอขอบคุณข้อมูลจากลิ้งด้านล่างนี้คะ
CreditsLink Data : greennetworkthailand.com
   

ธันวาคม 18, 2553

กรี๊ดด...Facebook โดนไวรัส ทำยังไงดี

ประกาศ!! โปรดระวังไวรัสจาก Facebook!  

สังเกตุได้ง่าย ๆ คือ จะเป็นลิงค์ให้เราคลิ๊ก
ส่วนมากจะเป็นรูปผู้หญิงที่ทีวีบ้านเราให้คำจำกัดความว่า "ฉ"  
อย่าคลิ๊กนะค่ะ เมื่อคลิ๊กแล้ว จะเป็นอาการดังนี้  


  1. เครื่องจะค้างเปิดไม่ค่อยได้
  2. ไวรัสจะสร้างตัวส่งข้อความอัตโนมัติไปยังโปรแกรมที่มีคำสั่งแชท (ทุกโปรแกรมที่แชทได้ไม่เว้นแม้แต่เฟรชบุคที่ไม่ใช่โปรแกรมแต่มีคำสั่งแชท)
  3. ไวรัสจะทำการปิดแอนตี้ไวรัส ทำให้เครื่องเราไม่สามารถแสกนไวรัสต่าง ๆ ที่มาจากโลกไซเบอร์รวมถึงจากอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับคอมฯ ได้
  4. เมื่อแอนตี้ไวรัสไม่ทำงาน คงไม่ต้องเดาจะเกิดอะไรขึ้น ข้อมูลหาย และอื่น ๆ อีกมากมายเลยค่ะ


วิธีแก้ไขเมื่อคุณเผลอกดไปค่ะ

1.ทำการ Restore ข้อมูลให้กลับไปก่อนวันที่เราจะรับไวรัสค่ะ เช่น
 เรารับไวรัสวันที่ 21 ตุลาคม 2553 ให้เราทำการย้อนข้อมูลไปวันที่ 18 หรือ 19 ตุลาคม 2553 

วิธีการย้อนข้อมูลมีขั้นตอนดังนี้ค่ะ


คลิก Start > All program>Accessories>System restore จากนั้นคลิก Next เลือกวันที่ต้องการย้อนเวลากลับค่ะเมื่อได้วันที่ต้องการแล้วคลิก Next อีก 2 ครั้ง เครื่องจะทำการรีสตาร์ทตัวเอง 

2.เมื่อเราทำแล้ว อาการยังไม่หายยังมีไวรัสอยู่

ให้ทำการเก็บข้อมูลสำคัญไว้ ในไดร์ฟ D หรือไดร์ฟที่เก็บข้อมูลที่ไม่ใช่ไดร์ฟ C จากนั้นทำการลงวินโดว์ใหม่นั่นเองค่ะ



หรือการแก้ง่ายๆดังวิดิโอนี้ค่ะ 


บทความนนี้งจะมีประโยชน์กับคนที่ชอบเล่น Facebook นะคะ ^^  



ขอขอบคุณข้อมูลและวิดีโอจากลิ้งด้านล่างนี้คะ



การตลาดผ่าน Social network

5 สเตปเทพ โปรโมต Facebook Fan Page "ทําการตลาดบน facebook" ให้ดังกระจาย


ถ้าพูดถึง Social Media อย่าง Facebook แล้วอาวุธลับสำหรับ "ทําการตลาดบน facebook" ของเหล่า E-Marketing Campaign ทั้งหลายคือการสร้างหน้า Fan Page และสำหรับบางคนหรือผู้เริ่มต้น"ทําการตลาดบน facebook"บางคนต้องมีคำถามในใจว่า "แล้วจะเริ่มโปรโมต Fan Page ใน "ทําการตลาดบน facebook" ให้มันดังยังไงดี?"

บทความนี้สามารถช่วยคุณได้บ้างสำหรับ 5 สเตปเทพแบบพื้นฐาน ที่ผู้เริ่มต้น "ทําการตลาดบน facebook"ควรรู้ไว้!   


5 Ways to Promote Your Facebook Fan Page

ทำไมต้องทำ Fan Page"ทําการตลาดบน facebook"?
ก็เพราะทำไมน่ะเหรอ!

ก็ทุกธุรกิจในปัจจุบันนั้นใช้ช่องทางนี้ในการ"ทําการตลาดบน facebook"ตักตวงสมาชิกหรือฐานลูกค้าใน Social Networkบน FaceBook หมดแล้วผ่านการสร้าง Fan Page ซึ่งเป็น Tool "ทําการตลาดบน facebook"ที่ฉลาดผสานกับแนวคิดไอเดียการสร้างกลุ่มผู้ใช้งานผู้สนใจ "ทําการตลาดบน facebook" หรือผู้บริโภคและ การ "ทําการตลาดบน facebook" นี้เองสามารถเข้าถึงได้อย่างผู้ใช้บริการได้ง่ายไม่แปลกใจเลย

...ที่ Alexa ได้จัดอันดับ Facebook เป็นเว็บที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับสองของโลกรองจาก Google และไม่นานก็อาจจะแซงหน้า Google ก็เป็นได้  

   

FanPage หลากหลายที่ฉันสร้าง  
 
นั่นหมายความว่า หน้า Fan Page "ทําการตลาดบน facebook" ที่ได้สร้างขึ้นสามารถชี้วัดดัชนีการเติบโตของกลุ่มธุรกิจ"ทําการตลาดบน facebook"หลากหลายได้อย่าง รวดเร็วและสามารถค้นหาได้ง่ายผ่าน Google หรือเครื่องมือค้นหาตัวอื่น ติดอันดับบนในผลการค้นหาได้ง่าย และ นี่เป็น 5 สเตปเทพที่ควรทำครั้งแรกในการสร้าง Fan Page ให้เป็นที่รู้จักได้รวดเร็ในการ"ทําการตลาดบน facebook" 

1. ไป Invite เพื่อนๆหรือคนที่รู้จักในลิสเครือข่าย "ทําการตลาดบน facebook"ของคุณ  

คุณมีเพื่อนหรือคนรู้จักที่รู้จักเป็นการส่วนตัว หรือ เพื่อนร่วมงานที่ออฟฟิศ นั่นแหละคือเป้าหมายแรกที่จะเป็นกลุ่มที่ช่วยเหลือและขยาย Fan Page ของคุณ 

คุณ สามารถ Invite หรือเชิญบุคคลเหล่านี้เป็นหัวหน้ากลุ่ม"ทําการตลาดบน facebook" (Administrator) ของ Fan Page ที่จะ "ทําการตลาดบน facebook" ของคุณหรือไม่ก็เป็นกลุ่มแรกๆที่เป็นหัวหลักหัวโตในการสร้าง Fan Page และขยายเครือข่าย เป็นการสร้างฐานสมาชิกแรกเริ่ม
ถ้ายิ่งเริ่มต้นในปริมาณที่มากการกระจายของ เส้นสายสมาชิกก็ยิ่งจะได้ผลในวงกว้าง เพียงแค่คุณคลิก "Suggest to Friends" หรือ "แนะนำ เพื่อน" ในหน้า "ทําการตลาดบน facebook"

โดยเริ่มพิมพ์ชื่อของสมาชิกหรือเพื่อนในส่วนของ Friend List โดยการกรอง Keywords ในการ Filter เลือกกลุ่มที่น่าจะได้ผลกับธุรกิจหรือประเภทของ Fan Page "ทําการตลาดบน facebook" ของเราดังตัวอย่างในภาพ   

Invite เพื่อนๆขอคุณด้วยการ Filter
เป็นไปได้ว่าอาจจะใช้เวลาระยะนึง กว่าจะเห็นใบหน้าที่คุ้นเคยโผล่ขึ้นมาจากการ ในช่อง Friend หรือ Fan List แต่ไม่นานก็จะเห็นว่าเมื่อกลุ่มที่สนใจได้รับคำเชิญ หรือ Invited ไปก็จะเข้ามา Be come a Fan ในไม่ช้า  

2. ค้นหาคนที่จะ Join Page โดยใช้ Facebook Search "ทําการตลาดบน facebook"

Feature ของ Facebook อย่างเจ้า Facebook Search (มองไปที่แถบ ค้นหา search ข้างบน Facebook) ไม่ง่ายและไม่ยากในการที่จะค้นหากลุ่มคนที่จะมาร่วม "ทําการตลาดบน facebook" join Fan Page กับเรา เลือกเมนู"Posts by Everyone," กับ Keyword ของคุณ

คุณจะพบ Wall หรือ บทสนทนาของบุคคลนั้นอาจจะอยู่ในลิสรายชื่อเครือข่าย"ทําการตลาดบน facebook" ของคุณหรืออาจจะไม่อยู่ ไม่รู้จักกันเลย แต่คุณจะเห็นข้อมูลเกี่ยวกับ Keyword นั้นๆปรากกฏขึ้นมาและก็ไม่ยากนักถ้าคุณจะเข้าไปแอบดูบทสนทนานั้นแล้วก็ Add Friends หรือ suggest to a fan "ทําการตลาดบน facebook" อย่างง่ายดาย ส่วนกลุ่มเพื่อนในเครือข่ายของคุณก็สามารถหาข้อมูล "ทําการตลาดบน facebook"ได้เช่นกันโดยการเลือก

เมนู "Posts by  Friends"  

ใช้ Facebook Search "ทําการตลาดบน facebook"โดยเลือก Posts by Everyone

3. ทำ Ads บน Facebook ทําการตลาดบน facebookเพื่อดึงดูดคนเข้ามา Fan Page (Social Ads)  

Social Ads หรือ Advert บนข้างแถบด้านซ้ายมือเว็บไซต์ Facebook เป็นอีกวิธีที่ได้ผลเพราะเป็นการหว่านแหผู้สนใจในการนำเสนอการ "ทําการตลาดบน facebook" หรือกลุ่มของคุณ และไม่ต้องกลัวคนจะไม่คลิกที่โฆษณา หากว่า Fan Page ที่คุณโฆษณาเป็นที่ต้องการของพวกเขาแล้วพวกเขาจะไม่รีรอในการกดคลิกโฆษณาด้านขวามือของ Facebook เลย เพราะพวกเขาเหล่านั้นสนใจใน Fan Page "ทําการตลาดบน facebook"ของคุณ

Social Ads
กลยุทธ์"ทําการตลาดบน facebook"นี้ใช้ ต้นทุนน้อย แต่ได้ผลตอบรับอย่างมีประสิทธิภาพในการหาเป้าหมายกลุ่มผู้ใช้บริการโดยตรงในการ"ทําการตลาดบน facebook" พอๆกับการ Filter ด้วย Keyword จะต่างกันก็เพียงคนเหล่านี้สนใจที่จะเข้ามาเอง


Advert Manager Campaign


เพียงคุณคลิก "Promote With an Ad" หรือ "ส่งเสริม กับ โฆษณา" ในหน้า Fan Page ของคุณคุณก็จะสามารถเริ่ม"ทําการตลาดบน facebook"ระบบแคมเปญโฆษณา สามารถกำหนดวงเงินการใช้จ่ายรายวัน $10-$20 เหรียญหรือจำนวนเงินที่เหมาะสมกว่านั้นกับแคมเปญ"ทําการตลาดบน facebook"ของคุณโดยเจาะจงด้วย Keyword

เป็นไปได้สูงที่จะเล่นแคมเปญโฆษณาบน Facebookมากกว่า 2-3 วันอาจจะเล่นซัก 4-5 วันด้วยงบประมาณ ไม่เกิน $25 ต่อวันแล้วหยุดเล่นแคมเปญ

"ทําการตลาดบน facebook"ชั่วคราว ก็เพื่อดู ฟีดแบ็ค ซักสองสัปดาห์หากว่ายังไม่เป้นที่น่าพอใจก็ลองเล่น"ทําการตลาดบน facebook"ใหม่อีกครั้งเพื่อสังเกต การเปลี่ยนแปลง

หมายเหตุ: เนื่องด้วยเป็นสเตป"ทําการตลาดบน facebook"ที่ต้องเสียเงินผู้ลงทุนควรศึกษาเร็ทการลงโฆษณาและวางแผนระยะเวลาในการเล่นแคมเปญต่างๆให้ดี!ในการ"ทําการตลาดบน facebook" 


4. ช่วยโปรโมต Facebook Fan Page ด้วย Twitter App  

ตัวช่วย"ทําการตลาดบน facebook" Fan Page Facebook ของคุณอีกตัวคือ Twitter เป็น เครื่องมือช่วยเหลือที่ดีมาก ที่สำคัญรวดเร็วอัพเดททันใจทางเลือกที่ดีที่สุดคือไปติดตั้ง Twitter App for Facebook เมื่อคุณอัพเดทสถานะบน Wall ไม่ว่าจะเป็น link, photo, video ในหน้า Facebook ก็จะมีการอัพเดทไปที่ Twitter เช่นกันซึ่งหากว่าคุณมี Twitter account ที่มีคน Follow คุณเยอะแยะมากมายแล้วความเป็นไปได้ที่กลุ่มผู้สนใจจะวิ่งเข้ามาที่ Fan Page ก็จะเยอะขึ้นเช่นกันเป็นการเพิ่มสมาชิกจากอีกแหล่งข้อมูลอื่นที่นอกเหนือ Facebook และ Google

5. Facebook Fan Box Widget  

Facebook Fan ox Widget เป็นรูปแบบ"ทําการตลาดบน facebook"ที่ดีที่จะเพิ่มช่องทางการกระจาย Fan Page"ทําการตลาดบน facebook"ให้เป็นที่รู้จัก ผ่าน Blog หรือ Website ของคุณหรือเพื่อนของคุณ เจ้า Widget ตัวนี้จะแสดงฐานสมาชิกของ Fan Page คุณและช่วยให้ผู้อื่นที่รู้จักสมาชิกใน Widget นี้สามารถเห็นเพื่อนหรือคนรู้จักที่เป็นแฟนของ Fan Page เราอยู่นั้นมาเป็นแฟนด้วยทันที ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อวิธี"ทําการตลาดบน facebook"นี้ได้ผลจริงนะ



หมดแล้วค่ะเคล็ดลับ 5 สเตปเทพ สำหรับ Facebook Fan Page หรือ
"ทําการตลาดบน facebook"
ที่กล่าวมาข้างต้นนั้นเป็นวิธีที่เริ่มต้นการต่อยอด"ทําการตลาดบน facebook"

แนวคิดของการนำเสนอ Fan Page เพื่อสร้างกลุ่มสมาชิกของบริการของคุณการนำไปใช้
"ทําการตลาดบน facebook" ไม่ใช่ว่าจะได้ผล 100% เลยทีเดียว
เพราะปัจจัยที่สำคัญที่สุดไม่ใช่เทคนิคในการนำเสนอแต่เป็น Page และเนื้อหาของ
กลุ่มที่คุณนำเสนอ"ทําการตลาดบน facebook"ต่างหาก  


ขอขอบคุณข้อมูลและที่มาจากลิ้งด้านล่างนี้คะ
CerditsLink Data,Picture :